ทำไมจึงต้องมีการจัดการสินค้าคงคลังและวัตถุดิบ ?
ในกระบวนการผลิตนั้น 4M เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมาก ประกอบไปด้วย
1. Man : หมายถึงบุคลากร หมายความรวมถึงบุคลากรทางตรงซึ่งก็คือ พนักงานในการผลิต ประกอบ ตรวจสอบสินค้า และอื่นๆ ที่ทำงานในสายการผลิต และบุคลากรทางอ้อมหรือพนักงานที่สนับสนุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต,ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ, พนักงานฝ่ายจัดซื้อ, พนักงานฝ่ายคลังสินค้า ไปจนถึงฝ่ายบริหาร เป็นต้น.
2. Machine : เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการผลิตสินค้ารวมถึงอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ.
3. Material : วัตถุดิบ ชิ้นส่วน ที่ใช้ในการผลิต ประกอบผลิตภัณฑ์หรือสินค้า
4. Method : ขั้นตอน กระบวนการในการผลิต แปรรูปผลิตภัณฑ์.
จะเห็นได้ว่า Material หรือ วัตถุดิบหรือชิ้นส่วน ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักเพื่อใช้ในการผลิต การที่ต้องมีสินค้าคงคลังก็เพื่อให้การผลิตดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง จะต้องมีการป้อนวัตถุดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง คำว่าต่อเนื่องไม่จำเป็นต้องทำการเก็บสินค้าไว้อย่างล้นเหลือเกินความต้องการซึ่งจะมีปัญหาที่ตามมาหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป้นค่าใช้ในการเก็บรักษา บริหารจัดการสินค้าคงคลัง รวมถึงเงินที่ต้องจมไปกับการนำสินค้ามาเก็บไว้เฉยๆ.
การจัดเก็บสินค้าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น แหล่งวัตถุดิบ ใกล้/ไกล แค่ไหน, ปริมาณการใช้ตามช่วงระยะเวลาต่าง เช่น ต่อวัน ต่อเดือน ต่อปี และการพยากรณ์การใช้งานในอาคตด้วย, วิธีการขนส่งจะสัมพันณ์โดยตรงกับระยะเวลาการส่งมอบและค่าใช้จ่ายในการขนส่งซึ่งถูกนำไปรวมอยู่ในต้นทุนของวัตถุดิบ, ระยะเวลาในการขนส่ง, ความเสี่ยงจากผู้ขาย เช่น ส่งตรงเวลาบ้าง ส่งช้าบ้าง ทำให้การควบคุมเป้นไปได้อย่างลำบาก เป็นต้น.
ดังนั้น การจัดการสินค้าคงคลังจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และต้องใช้ข้อมูลจากหลายๆ ส่วนในการพิจารณาเพื่อกำหนดนโยบายของการจัดเก้บสินค้า เช่น การพยากรณ์ความต้องการของสินค้าหรือวัตถุดิบ, การหาปริมาณความต้องการขั้นต่ำ, การเฝ้าติดามและวิเคราะหข้อมูลการเคลื่อนไหวของสินค้าคงคลัง ไม่ว้าจะเป็นสินค้าที่ไม่เคลื่อนไหวเลย หรือ Dead Stock และสินค้าที่เคลื่อนไหวช้า หรือ Slow Moving เป้นต้น.
Comments
Post a Comment